วิธีการดูแลสุขภาพในช่วงหน้าฝน คุณสามารถทำได้ โดยให้เน้นการออกกำลังอย่างน้อยวันละ 30 นาที และควรเลือกบริโภคผักและผลไม้ที่ให้วิตามินสูง ซึ่งจะช่วยป้องกันไข้หวัดได้ดี
ช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลง
เดี๋ยวก็ร้อนมาก เดี๋ยวก็ฝนตกเพราะฉะนั้นควรหันมาดูแลสุขภาพตนเองมากขึ้นเป็นพิเศษ
เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับสภาพต่อการเปลี่ยนแปลงของอากาศได้
โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ
และเพื่อป้องกันการเกิดโรคต่างๆ
ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
โดยเฉพาะโรคไข้หวัดเพราะหากป่วยเป็นไข้หวัดและไม่มีการดูแลสุขภาพที่ดี
อาจส่งผลให้กลายเป็นโรคหลอดลมอักเสบและโรคปอดบวมได้ในที่สุด
และสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ควรต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษมากกว่าคนอื่น
และควรที่จะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
เพราะการออกกำลังกาย
นอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง
แล้วยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคอีกด้วย
การออกกำลังกายสามารถทำได้หลายวิธี
เช่นการเต้นแอโรบิค
การเดินเร็วๆ
การวิ่งเหยาะ การขี่จักรยาน
หรือการเล่นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง
และการออกกำลังกายที่เหมาะสม
คือ การออกกำลังกาย
สัปดาห์ละ 5 วัน
อย่างน้อยวันละ 30 นาที แค่นี้ก็เพียงพอ
ที่จะเกิดภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
การเริ่มต้นออกกำลังกาย ควรเริ่มจากเบาๆ ระยะเวลาน้อยๆ ก่อนแล้วค่อยเพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละสัปดาห์เพื่อให้ร่างกาย ปรับตัว จากนั้นจึงเพิ่มความแรงหรือความหนัก และย้ำว่าไม่จำเป็นต้องหนักหรือเหนื่อยมาก การออกกำลังกายมากเกินไปโดยเฉพาะในอากาศที่ร้อนจัด จะทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า โรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) ได้ง่าย และเป็นโรคที่อันตรายมาก ผู้ป่วยจะมีอุณหภูมิร่างกายสูงมาก เหงื่อไม่ออก หมดสติ ไต หัวใจ ตับวาย อาจมีเลือดออกทุกอวัยวะ ถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้ ระหว่างออกกำลังกาย ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยเฉพาะน้ำที่มีเกลือแร่ด้วย สิ่งสำคัญ ที่ต้องคำนึงถึงนอกจากการออกกำลังกาย คือ การรับประทานอาหาร ควรเน้นการรับประทานผัก ให้หลากหลายทั้งสดและลวก ต้ม ผัด และรับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ องุ่น สัปปะรด มะละกอ เป็นต้น เพราะจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ดังนั้น หากเราดูแลสุขภาพตน เองได้ตามข้อปฏิบัติดังกล่าว ไม่เพียงแต่จะช่วยให้มีสุขภาพดีในช่วงหน้าฝนเท่านั้น แต่ยังจะส่งผลต่อการมีสุขภาพดีในระยะยาวด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก...โรงพยาบาลวิภาวดี